การย้ายไปยัง Zoho Mail
การย้ายอีเมลจากเซิร์ฟเวอร์อีเมลปัจจุบันไปยังเซิร์ฟเวอร์ Zoho Mail:
Zoho Mail มอบโซลูชันที่เรียบง่ายในการย้ายข้อมูลจากผู้ให้บริการอีเมลก่อนหน้าไปยังบัญชีผู้ใช้ที่สอดคล้องกันใน Zoho Mail โดยตรง จำเป็นต้องสร้างบัญชีผู้ใช้เหล่านี้ใน Zoho Mail ก่อนที่จะเพิ่มการย้าย ไปที่ลิงก์นี้เพื่อดูคำแนะนำโดยละเอียดเกี่ยวกับการเพิ่มผู้ใช้
การย้ายจาก G Suite:
หากอีเมลของคุณถูกโฮสต์ไว้กับ G Suite ก่อนหน้านี้ คุณสามารถย้ายไปยัง Zoho Mail โดยใช้ตัวเลือกการย้ายเฉพาะสำหรับ G Suite
การย้าย G Suite มีข้อได้เปรียบหลายข้อกว่าการย้าย Gmail IMAP เนื่องจากคุณยังสามารถย้ายข้อมูลปฏิทินและรายชื่อติดต่อไปพร้อมกับอีเมลได้ด้วย การย้ายเพิ่มเติมไปยัง G Suite สามารถทำได้โดยใช้ข้อมูลประจำตัวผู้ดูแลระบบ โปรดดูที่นี่สําหรับคําแนะนําโดยละเอียดเกี่ยวกับการย้าย G Suite
หากคุณไม่ต้องการใช้การย้าย G Suite คุณสามารถใช้โปรโตคอล IMAP เพื่อย้ายอีเมลของคุณจาก Gmail ไปยัง Zoho Mail ได้ โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่หน้าวิธีใช้นี้
การย้ายจาก Office 365:
หากบริการอีเมลของคุณถูกโฮสต์ไว้กับ Office 365 ก่อนหน้านี้ ผู้ดูแลระบบสามารถใช้ประโยชน์จากตัวเลือกการย้าย Office 365 ในคอนโซลผู้ดูแลระบบ Zoho Mail ได้ การดําเนินการนี้ไม่เพียงแค่ย้ายอีเมลเท่านั้น แต่ยังย้ายรายละเอียดปฏิทินและผู้ติดต่อที่บันทึกไว้ภายใต้บัญชีของผู้ใช้แต่ละคนได้ ไปที่หน้าวิธีใช้นี้สําหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการย้ายเฉพาะจาก Office 365
หรือคุณสามารถย้ายอีเมลของคุณด้วยความช่วยเหลือของการย้าย IMAP จากบัญชี Office 365 ของคุณไปยัง Zoho Mail ได้ โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่หน้าวิธีใช้นี้
การย้ายจาก Microsoft Exchange Server
Microsoft Exchange Server คือเซิร์ฟเวอร์อีเมลและปฏิทินที่พัฒนาขึ้นโดย Microsoft หากบริการอีเมลของคุณถูกโฮสต์ไว้กับ Exchange Server ก่อนหน้านี้ คุณสามารถย้ายไปยัง Zoho Mail ได้โดยเตรียมสภาพแวดล้อมต้นทางสำหรับการย้าย แล้วจึงเพิ่มการย้าย ข้อมูลอีเมล รายชื่อติดต่อ และปฏิทินจาก Exchange Server ไปยัง Zoho Mail
ไปที่หน้าวิธีใช้นี้สําหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการย้ายเฉพาะจาก Microsoft Exchange Server
การย้ายจาก GoDaddy:
หากบริการอีเมลของคุณถูกโฮสต์ไว้กับ GoDaddy หรือคุณได้ซื้อ Microsoft Office 365 ผ่าน GoDaddy ก่อนหน้านี้ ผู้ดูแลระบบสามารถดำเนินการย้ายจากเซิร์ฟเวอร์ไปยังอีกเซิร์ฟเวอร์หนึ่งผ่าน IMAP จากคอนโซลผู้ดูแลระบบ Zoho Mail ได้ ข้อมูลจากบัญชีผู้ใช้จากเซิร์ฟเวอร์ต้นทางของคุณจะถูกย้ายไปยังบัญชีผู้ใช้ที่สอดคล้องกันใน Zoho Mail โดยตรง
ไปที่หน้าวิธีใช้นี้สําหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการย้ายที่เฉพาะเจาะจงจาก GoDaddy
การย้าย IMAP / POP:
วิธีที่ดีที่สุดที่แนะนำในการย้ายอีเมลไปยัง Zoho Mail คือ การย้าย IMAP หลังจากการย้าย อีเมลเหล่านั้นสามารถใช้งานต่อได้เลย เนื่องจากสถานะของอีเมลและโฟลเดอร์อีเมลได้รับการรักษาไว้และย้ายในการย้าย IMAP
ในกรณีที่เซิร์ฟเวอร์อีเมลก่อนหน้าไม่รองรับ IMAP ยังสามารถย้ายอีเมลผ่านการย้าย POP ได้ โปรดดูที่นี่สำหรับคำแนะนำโดยละเอียด
Zoho Exchange / ตัวช่วยสร้างการย้าย Outlook:
หากบริการอีเมลก่อนหน้านี้ของคุณถูกดําเนินการโดย Exchange Server ในสถานที่/ ในองค์กร (โดยไม่มีการรองรับ POP/IMAP) หรืออีเมลของผู้ใช้พร้อมใช้งานเป็นไฟล์ PSTหรือ EML แบบออฟไลน์ ผู้ดูแลระบบจะสามารถใช้ ตัวช่วยสร้างการย้าย Exchange เพื่อย้ายอีเมลจาก Exchange Server ไปยังบัญชีผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องใน Zoho Mail ตัวช่วยสร้างนี้ยังสามารถใช้เพื่อค้นหาผู้ใช้จาก Active Directory ไปยังบัญชีองค์กรของ Zoho Mail ได้อีกด้วย คุณสามารถดาวน์โหลดเครื่องมือการย้าย Exchange ได้จากที่นี่
แนวปฏิบัติที่ดีที่สุด
- ทดลองย้ายผู้ใช้ประมาณ 2 ถึง 10 คนก่อนดำเนินขั้นตอนการย้ายอีเมลจริง การดําเนินการนี้จะช่วยให้เราทราบถึงลักษณะการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ต้นทาง (ขีดจำกัดของผู้ใช้ ขีดจำกัดของขนาดเมล ความเร็วในการย้าย เป็นต้น)
- ขีดจํากัดการเชื่อมต่อสูงสุดคือจํานวนการเชื่อมต่อที่เซิร์ฟเวอร์ยอมรับในเวลาที่กำหนด ตั้งค่าจํานวนสูงสุดของการเชื่อมต่อตามภาระโหลดของเซิร์ฟเวอร์และจำนวนผู้ใช้
- ขณะตั้งค่าการย้ายสำหรับกลุ่มผู้ใช้ ให้ตั้งค่าลำดับความสำคัญของผู้ใช้แต่ละราย ผู้ใช้ที่มีลําดับความสําคัญเป็น '1’ จะได้รับการย้ายก่อน และผู้ใช้ที่เหลือจะได้รับการย้ายต่อมาตามลำดับความสำคัญที่คุณได้ตั้งค่าไว้
- บางเซิร์ฟเวอร์จะควบคุมการดึงข้อมูลใน IMAP หลังผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง หลังจากนั้น การดึงข้อมูลเมลสำหรับการย้ายจะเป็นไปอย่างช้าๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการรับส่งเมลแบบเรียลไทม์
- กล่องจดหมายของผู้ใช้ตัวอย่างที่ควรได้รับการย้ายอีกครั้งเพื่อดึงข้อมูลอีเมลที่ถูกนำส่งก่อนการเปลี่ยน MX โดยจะมีการจัดการการซ้ำกันทางฝั่งของเรา หรือคุณยังสามารถตั้งค่าขีดจํากัดของวันที่ในขณะที่เพิ่มการย้ายขั้นสุดท้ายสำหรับกล่องจดหมายของผู้ใช้ตัวอย่างเพื่อทำให้แน่ใจว่าอีเมลทั้งหมดจะได้รับการย้ายหลังจากการทดลองย้าย
โดยทั่วไป เมื่อต้องการย้ายแบทช์ผู้ใช้ที่มี 25 คน โดยที่แต่ละคนมีขนาดกล่องจดหมายขนาดประมาณ 2 GB และมีการตั้งค่าขีดจำกัดการเชื่อมต่อสูงสุดไว้ที่ 10 การดำเนินการจะใช้เวลาประมาณ 11 ชั่วโมง
การเลือกประเภทการย้ายที่เหมาะสม:
การเลือกประเภทการย้ายที่เหมาะกับความต้องการขององค์กรถือเป็นเรื่องสำคัญในการทำให้แน่ใจว่าการย้ายจะเป็นไปอย่างราบรื่นและเหมาะสม การย้ายแต่ละประเภทเหมาะกับผู้ใช้แต่ละประเภทโดยเฉพาะ อ่านส่วนถัดไปเพื่อระบุประเภทที่เหมาะกับแต่ละสถานการณ์
การย้ายผ่าน IMAP เทียบกับ POP
หากอีเมลของคุณอยู่ในบริการอีเมลที่โฮสต์บนคลาวด์ เช่น Google Apps หรือ Yahoo หรือเซิร์ฟเวอร์อีเมลบนคลาวด์อื่นๆ ที่รองรับการเข้าถึง IMAP คุณสามารถดำเนินการย้ายแบบเซิร์ฟเวอร์ต่อเซิร์ฟเวอร์ผ่าน IMAP จากคอนโซลผู้ดูแลระบบ ข้อมูลจากบัญชีผู้ใช้จากเซิร์ฟเวอร์ต้นทางของคุณจะถูกย้ายไปยังบัญชีผู้ใช้ที่สอดคล้องกับข้อมูลนั้นๆ ใน Zoho Mail โดยตรง จำเป็นต้องสร้างบัญชีผู้ใช้เหล่านี้ใน Zoho Mail ก่อนที่จะเพิ่มการย้าย ไปที่ลิงก์นี้เพื่อดูคำแนะนำโดยละเอียดเกี่ยวกับการเพิ่มผู้ใช้
Zoho Mail รองรับทั้งการย้าย IMAP และ POP แต่การย้าย IMAP จะมีข้อได้เปรียบมากกว่าหากเทียบกับการย้าย POP เมื่อต้องการทราบเพิ่มเติมว่าการย้ายใดเหมาะกับบัญชีผู้ใช้ของคุณมากที่สุด โปรดดู ข้อดีของการย้ายผ่าน IMAP ที่เหนือกว่า POP
ข้อดีของการย้ายผ่าน IMAP ที่เหนือกว่า POP
หากอีเมลของคุณอยู่ในบริการอีเมลที่โฮสต์บนคลาวด์ เช่น Google Apps หรือ Yahoo หรือเซิร์ฟเวอร์อีเมลบนคลาวด์อื่นๆ ที่รองรับการเข้าถึง IMAP คุณสามารถดำเนินการย้ายเซิร์ฟเวอร์ต่อเซิร์ฟเวอร์ผ่าน IMAP จากแผงควบคุม
Zoho Mail รองรับทั้งการย้าย IMAP และ POP แต่การย้าย IMAP จะมีข้อได้เปรียบมากกว่าหากเทียบกับการย้าย POP
การย้าย IMAP | POP Migration |
การย้ายอีเมลพร้อมกับรายละเอียดของโฟลเดอร์ | POP ไม่ย้ายไปพร้อมกับโฟลเดอร์ อีเมลทั้งหมดจะได้รับการย้ายไปยังกล่องขาเข้า |
สถานะอีเมล (อ่าน/ยังไม่อ่าน) จะคงอยู่ | อีเมลทั้งหมดจะถูกเรียกข้อมูลเป็น 'ยังไม่อ่าน' เมื่อย้ายผ่าน POP |
การรองรับหลายไคลเอ็นต์:
| การรองรับเฉพาะไคลเอ็นต์เดียวเท่านั้น:
|
| โดยทั่วไปแล้ว การย้ายผ่าน IMAP จะเร็วกว่าปกติ รายงานการย้ายมีสถิติโดยละเอียด | การย้ายผ่าน POP จะช้ากว่าการย้าย IMAP |
| สามารถติดตามความล้มเหลวเฉพาะของการย้ายได้อย่างแม่นยำ ข้อผิดพลาดสามารถได้รับการแก้ไข และเรียกใช้การย้ายใหม่ได้ | ไม่สามารถติดตามความล้มเหลวของการย้ายใน POP อย่างแม่นยำจากเซิร์ฟเวอร์ที่เรียกข้อมูล (ในกรณีนี้คือ Zoho Mail) ดังนั้น ข้อมูลความล้มเหลวจะไม่แน่ชัด |
การย้าย PST :
ใช้ในกรณีต่อไปนี้
- ผู้ใช้หรือผู้ดูแลระบบอาจเป็นผู้ดำเนินการย้าย
- มีข้อมูลผู้ใช้ในรูปแบบไฟล์ PST
- จำเป็นต้องย้ายข้อมูลกล่องจดหมายทั้งหมด (กล่องจดหมาย/รายชื่อติดต่อ/ปฏิทิน/งาน/บันทึกย่อ) ไปยัง Zoho Mail
สิ่งที่ควรตรวจสอบโดยละเอียด
สามารถตรวจสอบจำนวนโฟลเดอร์และจดหมายที่แน่นอนอีกครั้งจากตัวเลือก ‘ดูรายละเอียดโฟลเดอร์’ ในหน้า ‘นโยบายการเก็บถาวร’ หน้านี้จะแสดงรายการจำนวนอีเมลอิงตามโฟลเดอร์และขนาดกล่องจดหมาย
การย้าย EML:
ใช้ในกรณีต่อไปนี้
- ผู้ใช้หรือผู้ดูแลระบบอาจเป็นผู้ดำเนินการย้าย
- ข้อมูลเดียวที่ได้รับการย้ายคืออีเมลของผู้ใช้
- ข้อมูลอีเมลของผู้ใช้จะอยู่ในรูปแบบไฟล์ ZIP ที่ประกอบด้วยไฟล์ EML
สิ่งที่ควรตรวจสอบโดยละเอียด
สามารถตรวจสอบจำนวนโฟลเดอร์และจดหมายที่แน่นอนอีกครั้งจากตัวเลือก ‘ดูรายละเอียดโฟลเดอร์’ ในหน้า ‘นโยบายการเก็บถาวร’ หน้านี้จะแสดงรายการจำนวนอีเมลอิงตามโฟลเดอร์และขนาดกล่องจดหมาย
การย้าย Exchange:
ใช้ในกรณีต่อไปนี้
- ผู้ดูแลระบบสามารถใช้ตัวเลือก GAL หรือ LDAP เพื่อดึงข้อมูลรายการผู้ใช้สำหรับการย้าย
- ข้อมูลผู้ใช้จะพร้อมใช้งานบนเซิร์ฟเวอร์ Exchange
- จำเป็นต้องย้ายข้อมูลกล่องจดหมายทั้งหมด (กล่องจดหมาย/รายชื่อติดต่อ/ปฏิทิน/งาน/บันทึกย่อ) ไปยัง Zoho Mail
สิ่งที่ควรตรวจสอบโดยละเอียด
สามารถตรวจสอบจำนวนโฟลเดอร์และจดหมายที่แน่นอนอีกครั้งจากตัวเลือก ‘ดูรายละเอียดโฟลเดอร์’ ในหน้า ‘นโยบายการเก็บถาวร’ หน้านี้จะแสดงรายการจำนวนอีเมลอิงตามโฟลเดอร์และขนาดกล่องจดหมาย
ก่อนการย้าย
1. เพิ่มโดเมนใน Zoho Mail
2. พิสูจน์ยืนยันโดเมนใน Zoho Mail
3. สร้างผู้ใช้และกลุ่มทั้งหมดใน Zoho Mail
4. ทดลองย้ายผู้ใช้ 3 หรือ 4 คนเพื่อทดสอบการย้าย
5. สุดสัปดาห์คือช่วงเวลาที่เหมาะสมในการสลับบริการ (มีอีเมลขาเข้าน้อย)
6. แจ้งผู้ใช้เกี่ยวกับการสลับอีเมลและให้รายละเอียดการเข้าสู่ระบบสำหรับผู้ใช้ก่อนสลับ
7. เปลี่ยน MX เป็น Zoho Mail (คืนวันศุกร์/ เช้าตรู่วันเสาร์)
8. สามารถกำหนดค่าการกําหนดเส้นทางอีเมลเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ข้อมูลสูญหาย
9. สร้างบัญชี Catch-all (ใช้ไม่ได้กับการนำส่งแบบแยก) เพื่อตรวจสอบและค้นหาว่ามีการตกหล่นของที่อยู่อีเมล (กลุ่ม/ ผู้ใช้) ขณะสร้างผู้ใช้หรือไม่