- แอปแบบกำหนดเองคืออะไร
- แอปแบบกำหนดเองทำงานอย่างไร
- Webhook คืออะไร
- Webhook ทำงานอย่างไร
- Webhook กับ API แตกต่างกัน
อย่างไร - คุณจะสร้างแอปแบบกำหนเองได้อย่างไร
- คุณจะตั้งค่า Webhook โดยใช้แอปแบบ
กำหนดเองได้อย่างไร - คุณควรใช้ Webhook ตอนไหน
- Webhook ให้ประโยชน์อะไรบ้าง
- ใครสร้างแอปแบบกำหนดเองได้บ้าง
- ฉันต้องเป็นนักพัฒนาหรือไม่
หากฉันต้องการสร้างแอปแบบกำหนดเอง - ฉันสามารถสร้างแอปแบบกำหนดเอง
ได้มากเท่าไร
แอปแบบกำหนดเองคืออะไร
เชื่อมต่อ WorkDrive กับแอปอื่นโดยใช้ Webhook ลดการสลับบริบทไปมา ลดจำนวนแอปที่ใช้ และลดความยุ่งยากให้กับวิธีที่คุณจัดการข้อมูลธุรกิจด้วยแอปแบบกำหนดเอง

แอปแบบกำหนดเองทำงานอย่างไร
แอปแบบกำหนดเองใช้ Webhook เพื่อแจ้งเตือนแอปภายนอกโดยอัตโนมัติ (ผ่าน URL ที่คุณระบุ) เมื่อเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง (ทริกเกอร์) เช่น การอัปโหลดไฟล์หรือการปรับเปลี่ยน เกิดขึ้นในโฟลเดอร์ WorkDrive ที่ระบุ (ผู้ส่ง)
ในการสร้างแอปแบบกำหนดเอง คุณต้องเลือกเหตุการณ์ที่เป็นทริกเกอร์ในแท็บ Webhook และระบุว่าจะต้องเกิดขึ้นที่ไหนใน WorkDrive เมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น WorkDrive จะส่งการแจ้งเตือนไปยังแอปภายนอกที่ระบุผ่าน URL โดยอัตโนมัติ
Webhook คืออะไร
ตามคำจำกัดความแล้ว Webhook หมายถึง API ที่ดำเนินการตามเหตุการณ์ซึ่งอนุญาตให้ HTTP Callback ที่ผู้ใช้ระบุถูกทริกเกอร์โดยเหตุการณ์ในแอปพลิเคชันออนไลน์
Webhook เป็นเทคโนโลยีสื่อสารทางเดียวที่ช่วยในการแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบเรียลไทม์โดยการส่งการแจ้งเตือนระหว่างแอปพลิเคชันโดยอัตโนมัติ ซึ่งลดความจำเป็นในการขอหรือรอข้อมูล Webhook ช่วยทำให้เวิร์กโฟลว์ของคุณเป็นอัตโนมัติโดยการเชื่อมต่อระหว่างแอปพลิเคชันสองตัวที่แตกต่างกัน

Webhook ทำงานอย่างไร
Webhook ทำงานเมื่อ HTTP Callback ที่ผู้ใช้ระบุส่งข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ไปยัง URL ที่ระบุ Webhook ทำงานด้วยระบบทริกเกอร์ คุณต้องตั้งค่าเหตุการณ์และทริกเกอร์ เมื่อคุณตั้งค่า Webhook เรียบร้อยแล้ว Webhook จะทริกเกอร์กระบวนการหรือเหตุการณ์ในแอปเป้าหมายโดยอัตโนมัติเมื่อใดก็ตามที่ได้รับข้อความจากแอปพลิเคชันต้นทาง

Webhook กับ API แตกต่างกัน
อย่างไร
Webhook ทำงานเมื่อ HTTP Callback ที่ผู้ใช้ระบุส่งข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ไปยัง URL ที่ระบุ Webhook ทำงานด้วยระบบทริกเกอร์ คุณต้องตั้งค่าเหตุการณ์และทริกเกอร์ เมื่อคุณตั้งค่า Webhook เรียบร้อยแล้ว Webhook จะทริกเกอร์กระบวนการหรือเหตุการณ์ในแอปเป้าหมายโดยอัตโนมัติเมื่อใดก็ตามที่ได้รับข้อความจากแอปพลิเคชันต้นทาง
คุณจะสร้างแอปแบบกำหนเองได้อย่างไร
คุณสามารถสร้างแอปแบบกำหนดเองจากคอนโซลผู้ดูแลระบบของ WorkDrive และตั้งค่า Webhook ที่เกี่ยวข้องได้ภายในนั้น
วิธีสร้างแอปแบบกำหนดเอง:
เข้าสู่ระบบ WorkDrive ในฐานะผู้ดูแลระบบหรือผู้ดูแลระบบระดับสูง
คลิก Admin Console (คอนโซลผู้ดูแลระบบ) ที่มุมขวาล่าง ซึ่งจะเปิดหน้าต่างคอนโซลผู้ดูแลระบบ และแท็บ Dashboard (แดชบอร์ด) จะถูกเลือกไว้ตามค่าเริ่มต้น
ไปที่แท็บ Apps (แอป) โดยการคลิกรายการบนหน้าต่างด้านซ้าย แท็บ Apps จะปรากฎทางด้านขวา
คลิก + Create a new custom app (+ สร้างแอปแบบกำหนดเองใหม่) ที่มุมขวาบน ซึ่งจะเปิดหน้าต่าง Create new app (สร้างแอปใหม่) ขึ้นมา
หมายเหตุ: ฟีเจอร์นี้ใช้งานได้ใน WorkDrive แผน Business เท่านั้น คุณสร้างแอปแบบกำหนดเองได้สูงสุด 10 แอปสำหรับทีม WorkDrive ของคุณกรอกแบบฟอร์มสร้างแอปใหม่ด้วยข้อมูล เช่น ชื่อแอป คำอธิบาย และ ID ไคลเอนต์
คลิก Create (สร้าง) คุณตั้งค่าได้สูงสุด 10 Webhook สำหรับแอปที่สร้าง
คุณจะตั้งค่า Webhook
โดยใช้แอปแบบกำหนดเองได้อย่างไร
การตั้งค่า Webhook ใน WorkDrive ค่อนข้างตรงไปตรงมา
วิธีสร้างแอปแบบกำหนดเอง:
คลิก Admin Console (คอนโซลผู้ดูแลระบบ) ที่มุมขวาล่าง ซึ่งจะเปิดหน้าต่างคอนโซลผู้ดูแลระบบ และแท็บ Dashboard (แดชบอร์ด) จะถูกเลือกไว้ตามค่าเริ่มต้น
ไปที่แท็บ Apps (แอป) โดยการคลิกรายการจากหน้าต่างด้านซ้าย แท็บ Apps จะปรากฎขึ้นที่ด้านขวาพร้อมรายการแอปแบบกำหนดเองทั้งหมดของคุณ
เลือกแอปพลิเคชันแบบกำหนดเองที่คุณต้องการตั้งค่า Webhook การดำเนินการนี้จะเปิดหน้าต่าง Custom app (แอปแบบกำหนดเอง) ขึ้นมา แท็บ App details (รายละเอียดแอป) จะถูกเลือกไว้ตามค่าเริ่มต้น
สลับไปยังแท็บ Webhooks และคลิก Create New Webhook (สร้าง Webhook ใหม่) ซึ่งจะเปิดหน้าต่าง Create new webhook (สร้าง Webhook ใหม่) ขึ้นมา
กรอกชื่อและรายละเอียด Webhook ในฟิลด์ที่เกี่ยวข้อง
ป้อน URL ปลายทางที่คุณต้องการรับการแจ้งเตือน หมายเหตุ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่า URL เปิดใช้งานอยู่และสามารถประมวลผล Webhook ได้
เลือกเหตุการณ์ที่เป็นตัวทริกเกอร์และระบุตำแหน่งเป้าหมายของเหตุการณ์ (ไฟล์, โฟลเดอร์, โฟลเดอร์ทีม หรือองค์กร)
คลิก Create Webhook (สร้าง Webhook) เท่านี้คุณก็จะได้รับการแจ้งเตือนที่ URL ที่ระบุเมื่อเหตุการณ์ที่ระบุเกิดขึ้นใน WorkDrive
คุณควรใช้ Webhook ตอนไหน
คุณควรใช้ Webhook เมื่อคุณต้องการสิ่งต่อไปนี้:
การสื่อสารแบบเรียลไทม์ระหว่างแอปพลิเคชันของคุณโดยตรง
การแจ้งเตือนเหตุการณ์โดยทันที
การเชื่อมต่อแบบ Non-Persistent (สิ้นสุดเมื่อเสร็จสิ้น) ระหว่างแอปพลิเคชันของคุณ
การสื่อสารแบบหนึ่งต่อหนึ่ง
การส่งการอัปเดต
ต่อไปนี้คือตัวอย่างการใช้งาน Webhook:
ผู้ใช้รับการแจ้งเตือนเมื่อพวกเขาทิ้งการสั่งอาหารไว้กลางคันหรือมีสินค้าถูกทิ้งไว้ในรถเข็นของแอปซื้อของ
เกตเวย์การชำระเงินแจ้งผู้ขายเกี่ยวกับการชำระเงิน
การส่งอีเมลอัตโนมัติไปยัง CRM เมื่อผู้มีแนวโน้มเป็นลูกค้ากรอกแบบฟอร์มขอรับการสาธิต การสัมมนาทางเว็บ หรือการติดต่อบนเว็บเพจ
ประโยชน์ของ Webhook
Webhook ทำงานเมื่อ HTTP Callback ที่ผู้ใช้ระบุส่งข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ไปยัง URL ที่ระบุ Webhook ทำงานด้วยระบบทริกเกอร์ คุณต้องตั้งค่าเหตุการณ์และทริกเกอร์ เมื่อคุณตั้งค่า Webhook เรียบร้อยแล้ว Webhook จะทริกเกอร์กระบวนการหรือเหตุการณ์ในแอปเป้าหมายโดยอัตโนมัติเมื่อใดก็ตามที่ได้รับข้อความจากแอปพลิเคชันต้นทาง

ใครสร้างแอปแบบกำหนดเองได้บ้าง
ผู้ดูแลระบบและผู้ดูแลระบบระดับสูงของทีม WorkDrive สามารถสร้างและจัดการแอปแบบกำหนดเองได้โดยตรงจากคอนโซลผู้ดูแลระบบ



ฉันต้องเป็นนักพัฒนาหรือไม่
หากฉันต้องการสร้างแอปแบบกำหนดเอง
แอปแบบกำหนดเองมอบโซลูชันแบบ Low-Code ที่ช่วยบริษัทเชื่อมต่อแอปพลิเคชันของพวกเขาและปรับปรุงประสิทธิภาพของโฟลว์ข้อมูลโดยไม่ต้องเขียนโค้ดให้ยุ่งยาก

ฉันสามารถสร้างแอปแบบกำหนดเองได้มากเท่าไร
ผู้ใช้แผน Business สามารถสร้างได้สูงสุด 10 แอป และเรากำลังพยายามเพิ่มจำนวนแอปที่คุณสามารถสร้างได้ หากคุณต้องการดูการสาธิตหรือรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอปแบบกำหนดเอง โปรดติอต่อเราที่ support@zohoworkdrive.com