การตลาดดิจิทัลคืออะไร
การตลาดดิจิทัลหรือที่เรียกว่าการตลาดออนไลน์เป็นวิธีการส่งเสริมแบรนด์ผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น โปรแกรมค้นหา เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย อีเมล การสัมมนาทางเว็บ และแอปมือถือ พูดง่ายๆ ก็คือ การตลาดแบบดิจิทัลคือกิจกรรมทางการตลาดที่ต้องใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซอฟต์แวร์ และอินเทอร์เน็ต ในการสร้างและส่งเสริมแคมเปญทางการตลาด
เริ่มต้นใช้งานคำนิยามของผู้เชี่ยวชาญ
Gartner ให้ความหมายของการตลาดแบบดิจิทัลว่าเป็นชุดเทคนิค เทคโนโลยี และข้อมูลแบบบูรณาการที่ช่วยให้การตลาดสามารถสร้างผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ เข้าสู่ตลาดใหม่ ปรับปรุงกระบวนการที่จำเป็นต่อการเพิ่มการมีส่วนร่วมในการสื่อสารผ่านผู้คนที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์หรือผู้ซื้อ และเหนือสิ่งอื่นใดก็คือการหาและรักษาลูกค้า
"การตลาดดิจิทัลเป็น (หรือควรจะเป็น) ส่วนหนึ่งของการตัดสินใจทางธุรกิจที่สำคัญเกือบทั้งหมด ตั้งแต่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และการกำหนดราคาไปจนถึงการประชาสัมพันธ์และแม้แต่การสรรหาบุคลากร"
Simon Kingsnorth Digital Marketing Strategy, 2nd edition"การตลาดดิจิทัลคือการดำเนินการขายผลิตภัณฑ์และบริการผ่านช่องทางออนไลน์"
Neil Patel ผู้ร่วมก่อตั้ง Neil Patel Digital
ความสำคัญของการตลาดดิจิทัล
ผู้ชมของคุณใช้เวลาโดยเฉลี่ยมากกว่า 6 ชั่วโมงต่อวันในการออนไลน์ ทั้งการเข้าเว็บไซต์ การดูวิดีโอ และการอ่านเนื้อหาบนบล็อกและโซเชียลมีเดีย การตลาดดิจิทัลเป็นวิธีการง่ายๆ ในการเข้าถึงลูกค้าโดยตรง ถ้าคุณยังไม่มีกลยุทธ์ทางการตลาดแบบดิจิทัลสำหรับธุรกิจของคุณ ก็ถึงเวลาที่จะต้องสร้างกลยุทธ์นั้นแล้ว
ต้นทุนที่ลดลงสำหรับการตลาดดิจิทัลเมื่อเทียบกับการตลาดแบบดั้งเดิม
ROI เพิ่มมากขึ้นด้วย SEO
ของลูกค้าคาดหวังว่าแบรนด์จะให้ข้อมูลที่ถูกต้องและสอดคล้องกันทั่วทั้งช่องทางออนไลน์
ประโยชน์ของการขายแบบดิจิทัล
- เข้าถึงผู้ชมของคุณได้ทุกที่ในโลก
- มุ้งเน้นไปที่กลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมกับโปรไฟล์ลูกค้าในอุดมคติ (ICP) ของคุณ
- มอบประสบการณ์ที่มีความเป็นส่วนตัวสูง
- มีส่วนร่วมและสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมายกับผู้ชมของคุณ
- สร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่ดียิ่งขึ้น
- ควบคุมงบประมาณด้านการตลาดของคุณได้ดียิ่งขึ้น
- ได้รับประโยชน์จากความสามารถในการมองเห็นภาพรวมประสิทธิภาพแคมเปญของคุณ
- ROI ที่วัดได้
ประเภทของการตลาดดิจิทัล
SEO
SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization ซึ่งเป็นกระบวนการต่อเนื่องในการปรับการกำหนดค่าทางเทคนิคของเว็บไซต์ของคุณให้เหมาะสม สร้างเนื้อหาที่สัมพันธ์กับผู้ชมของคุณ และแชร์ลิงก์บนโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อทำให้เว็บไซต์ของคุณมีแนวโน้มที่จะปรากฏบนโปรแกรมค้นหาเพื่อตอบสนองการค้นหาของผู้ใช้ SEO มีองค์ประกอบหลักสามอย่าง
SEO บนเว็บเพจ
การปรับเว็บเพจแต่ละเพจให้เหมาะสมในด้านของไซต์ โครงสร้าง และเนื้อหา SEO บนเว็บเพจเป็นตัววัดทั้งหมดที่ดำเนินการโดยตรงบนเว็บไซต์เพื่อปรับปรุงตำแหน่งในการจัดอันดับการค้นหา
SEO นอกเว็บเพจ
การกระทำที่คุณทำที่อื่นนอกเหนือจากเว็บเพจของคุณเพื่อปรับปรุงการจัดอันดับเพจของคุณในผลลัพธ์ของโปรแกรมค้นหา ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเพิ่มความเข้าใจของผู้ใช้เกี่ยวกับความนิยม ความเกี่ยวข้อง และการจัดอันดับสิทธิ์ของไซต์ของคุณ
SEO เชิงเทคนิค
กระบวนการทำให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณจะตรงตามเกณฑ์ทางเทคนิคของโปรแกรมค้นหา เช่น เวลาในการโหลดเพจ สถาปัตยกรรมเว็บไซต์ โครงสร้าง URL และการรักษาความปลอดภัย
ปัจจัยหลายอย่างที่มีส่วนช่วยให้ได้คะแนน SEO ที่ดี แต่การสร้างเนื้อหาที่อุดมสมบูรณ์เป็นกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งเสมอ ที่จริงแล้ว การทำ SEO ที่ดีนั้นเป็นเรื่องของการทำการตลาดของเนื้อหา
การตลาดด้านเนื้อหา
การตลาดด้านเนื้อหาเป็นวิธีการทางการตลาดที่มุ่งเน้นการสร้างและการแจกจ่ายเนื้อหา เช่น บล็อก อินโฟกราฟฟิก รายงานทางอิเล็กทรอนิกส์ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ พอดแคสต์ และวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับผู้ชมเป้าหมายของคุณเพื่อทำให้เว็บไซต์ของคุณมีแนวโน้มที่จะปรากฏบนโปรแกรมค้นหาในการตอบกลับการค้นหาของผู้ใช้
วัตถุประสงค์หลักของการตลาดด้านเนื้อหาคือ การให้ความรู้แก่ผู้ชมของคุณเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการที่คุณเสนอเพื่อดึงดูดความสนใจและให้พวกเขาประเมินว่าธุรกิจของคุณมีโซลูชันที่เหมาะสมกับปัญหาของพวกเขาหรือไม่ การตลาดด้านเนื้อหายังเป็นการขายแบบซอฟต์เซลล์สำหรับธุรกิจของคุณ ซึ่งช่วยเพิ่มปัจจัยต่างๆ เช่น การเข้าถึง การรับรู้ถึงแบรนด์ การมีปฏิสัมพันธ์ การขาย และความภักดี
เนื้อหาเว็บไซต์ของคุณอย่างโพสต์บนบล็อกสามารถสนับสนุน SEO ได้อย่างมาก ซึ่งทำให้แน่ใจได้ว่าเว็บไซต์ของคุณจะปรากฏที่ด้านบนของหน้าผลลัพธ์ในโปรแกรมค้นหา (SERP) สำหรับการค้นหาที่เกี่ยวข้อง ผู้ใช้มีแนวโน้มที่จะเยี่ยมชมหน้าที่อยู่ด้านบนของผลลัพธ์ ดังนั้น คุณจะได้รับผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณมากขึ้นโดยไม่ต้องจ่ายค่ารับส่งข้อมูล ด้วยเหตุนี้ เนื้อหาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเสมอ
การตลาดทางอีเมล
การตลาดทางอีเมลเป็นองค์ประกอบหนึ่งของการตลาดทางดิจิทัลที่ใช้อีเมลเป็นสื่อกลางในการโปรโมตแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ และบริการให้แก่ผู้สมัครใช้บริการ ซึ่งจะช่วยให้แบรนด์ของคุณสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและช่วยให้ลูกค้าได้รับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ ข้อเสนอ ส่วนลด และบริการอื่นๆ ของคุณ
การตลาดทางอีเมลเหมาะสำหรับ
- การต้อนรับและให้ข้อมูลลูกค้าใหม่
- การดูแลลูกค้าด้วยเนื้อหาที่เกี่ยวข้องและมีคุณค่า
- ติดตามผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าใหม่
- การแชร์บล็อกหรือจดหมายข่าว
- การส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ของคุณ
ข้อได้เปรียบของการตลาดทางอีเมล
- การตลาดทางตรง
- สร้างได้ง่าย
- เข้าถึงทันที
- นำเสนอประสบการณ์แบบส่วนตัว
- ผลลัพธ์ที่วัดได้
- ROI สูงขึ้นหากดำเนินการได้ดี
เรียนรู้วิธีสร้างและดำเนินแคมเปญทางอีเมลที่ประสบความสำเร็จสำหรับธุรกิจของคุณ
การตลาดทาง SMS
การตลาดทาง SMS เกี่ยวข้องกับการส่งข้อความส่งเสริมการขายหรือธุรกรรมผ่านทาง SMS เพื่อสื่อสารเกี่ยวกับข้อเสนอ การอัปเดต และการแจ้งเตือนไปยังลูกค้าของคุณที่ยินยอมรับข้อความเหล่านี้จากบริษัทของคุณ
ข้อได้เปรียบของการตลาด SMS
- เข้าถึงผู้ชมของคุณโดยตรงได้ทันทีบนโทรศัพท์ของพวกเขา
- สร้างเวิร์กโฟลว์และทำให้ข้อความในแอปการตลาด SMS ส่วนใหญ่เป็นแบบอัตโนมัติ
- ประโยชน์จากผลลัพธ์ที่วัดได้และอัตราการมีส่วนร่วมสูง
การตลาดทางโซเชียลมีเดีย (SMM)
การตลาดทางโซเชียลมีเดียคือองค์ประกอบของการตลาดดิจิทัลที่ใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางในการเชื่อมต่อกับผู้ชมของคุณเพื่อโปรโมตเนื้อหาของคุณ สร้างแบรนด์ของคุณ มีส่วนร่วมกับผู้ติดตามของคุณ และเพิ่มยอดขาย
ข้อได้เปรียบของการตลาดทางโซเชียลมีเดีย:
- เพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์โดยการโปรโมตเนื้อหาของคุณให้กับผู้ชมใหม่
- เพิ่มปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณเพื่อปรับปรุงคะแนน SEO ของคุณ
- มีส่วนร่วมกับผู้ติดตามและสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมาย
- ดึงดูดลีดที่เข้ามาได้มากยิ่งขึ้น
- ปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้า
- ช่องทาง
- ประเภทการทำธุรกิจ
- ประเภทเนื้อหา
- วัตถุประสงค์
- YouTube
- Google my Business
- B2C
- B2C
- B2C และ B2B
- B2B
- B2C และ B2B
- B2C และ B2B
- บล็อกและบทความ
- รูปภาพและวิดีโอ
- ข้อความสั้นๆ และรูปภาพ
- บล็อกและบทความ
- วิดีโอ
- รูปภาพ คำถามที่พบบ่อย และรีวิว
- การสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์และความภักดี
- การสร้างการับรู้ถึงแบรนด์และความสัมพันธ์
- การประชาสัมพันธ์และการสร้างแบรนด์
- การสร้างลีดและสร้างแบรนด์
- การสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์และการกระตุ้นการใช้งานเว็บไซต์
- การให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่ผู้เข้าชมครั้งแรก
การตลาดแบบมีค่าใช้จ่าย
การตลาดแบบมีค่าใช้จ่ายซึ่งมีความหมายตามชื่อคือการที่คุณจ่ายเงินเพื่อโปรโมตแบรนด์ของคุณบนโปรแกรมค้นหา เว็บไซต์ และโซเชียลมีเดีย กลยุทธ์นี้สามารถเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพได้จากการพึ่งพาข้อมูลที่สั่งสมจากการโต้ตอบทางออนไลน์ของผู้ใช้เพื่อเพิ่มปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณโดยการส่งโฆษณาที่เกี่ยวข้องไปยังกลุ่มเป้าหมาย
ช่องทางการตลาดแบบมีค่าใช้จ่ายหลักๆ สองช่องทางคือ:
การตลาดผ่านโปรแกรมค้นหา (SEM)
โฆษณาเหล่านี้จะแสดงที่ด้านบนหรือด้านข้างของหน้าผลลัพธ์โปรแกรมค้นหาบนบริการต่างๆ อย่าง Google และ Bing โฆษณาเหล่านี้จะคิดค่าใช้จ่ายสำหรับทุกการคลิก การแปลง หรือการเข้าชม คุณสามารถสร้างและปรับแต่งโฆษณาเพื่อกำหนดเป้าหมายเฉพาะผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้ามากที่สุดของคุณได้โดยไม่ต้องแสดงโฆษณาสำหรับทุกการค้นหา
โฆษณาบนโซเชียลมีเดีย
สิ่งนี้คือโฆษณาที่แสดงบนแพลตฟอร์มโซเชียล เช่น Facebook, Instagram, Twitter, Linked และ YouTube บนโลกนี้มีผู้ใช้โซเชียลมีเดียมากถึง 4.33 พันล้านคน และการโฆษณาบนโซเชียลมีเดียจะช่วยให้คุณเข้าถึงผู้ใช้ที่เหมาะสมและกำหนดกลุ่มเป้าหมายผู้คนที่เคยเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณมาก่อนอีกครั้ง ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตราการแปลงของคุณได้
การสัมมนาทางเว็บ
การตลาดผ่านการสัมมนาทางเว็บเป็นองค์ประกอบหนึ่งของการตลาดดิจิทัล ทำงานโดยการดึงดูดและเชิญชวนให้ผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าเข้าร่วมสัมมนาทางเว็บที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยมอบคุณค่าที่ดีให้กับผู้เข้าร่วมได้อย่างเหมาะสม และยังเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ของคุณกับพวกเขาและส่งเสริมผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณอีกด้วย
ข้อได้เปรียบของการสัมมนาทางเว็บ:
- เพิ่มคุณค่าให้กับแบรนด์ของคุณ
- นำเสนอคุณประโยชน์ที่เหนือกว่าผ่านเนื้อหาเชิงการศึกษา
- โต้ตอบกับผู้ชมโดยตรง
- สร้างลีดที่มีคุณภาพสูง
- เพิ่มอัตราการแปลง
นักการตลาดดิจิทัลทำหน้าที่อะไร
หน้าที่ของนักการตลาดดิจิทัลนั้นอาจรวมถึงการเขียนบล็อก การส่งอีเมล การจัดการโซเชียลมีเดีย การจัดการโฆษณาแบบมีค่าใช้จ่าย การวัดปริมาณการใช้งานเว็บไซต์ การสร้างลูกค้าลีด และการทำงานร่วมกับทีมอื่นๆ อย่างทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทีมออกแบบ และทีมขายในการทำความเข้าใจสิ่งที่ผลิตภัณฑ์และบริการนำเสนอแล้วทำให้ทีมสามารถสร้างเนื้อหาที่ดีขึ้นเพื่อดึงดูดใจผู้ชมและแปลงพวกเขาให้เป็นลูกค้า
แต่บทบาทและความรับผิดชอบที่แน่นอนของนักการตลาดดิจิทัลจะแตกต่างกันไปในแต่ละองค์กรไปยังแต่ละองค์กรโดยขึ้นอยู่กับขนาดและเป้าหมายของทีม นักการตลาดดิจิทัลที่ทำงานในธุรกิจสตาร์ทอัพกับทีมขนาดเล็กอาจต้องทำงานหลายอย่างและจัดการกิจกรรมทางการตลาดออนไลน์ทั้งหมดของบริษัท ในขณะที่นักการตลาดที่ทำงานที่องค์กรอาจมุ่งเน้นเพียงหนึ่งหรือสองสิ่ง เช่น การจัดการแคมเปญทางอีเมลหรือการเผยแพร่โฆษณาบนโซเชียลมีเดียเท่านั้น
KPI สำหรับนักการตลาดดิจิทัลประกอบด้วยการเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์ การดึงดูดผู้เข้าชมเว็บไซต์ให้มากขึ้น และการสร้างลีดที่มีคุณสมบัติเหมาะสมต่อการขาย เพื่อจัดการกิจกรรมทางการตลาดและบรรลุเป้าหมาย KPI นักการตลาดดิจิทัลจำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง มีความเข้าใจที่ดีเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และตลาดของตน และสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดคือซอฟต์แวร์การตลาดดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพ
ซอฟต์แวร์การตลาดดิจิทัลสนับสนุนการทำงานต่างๆ ที่ใช้ในการตลาดออนไลน์ เช่น เครื่องมือแคมเปญอีเมล เครื่องมือการจัดการโซเชียลมีเดีย และเครื่องมือสัมมนาทางเว็บ ซอฟต์แวร์การตลาดดิจิทัลมีสองประเภทหลักๆ ได้แก่ โซลูชันการตลาดแบบเฉพาะด้านและแพลตฟอร์มการตลาดแบบรวมศูนย์
โซลูชันการตลาดแบบเฉพาะด้าน เทียบกับ แพลตฟอร์มการตลาดแบบรวมศูนย์
โดยทั่วไป โซลูชันทางการตลาดแบบเฉพาะด้านจะประกอบด้วยแอปพลิเคชันที่มีฟังก์ชันการตลาดด้านเดียว เช่น เครื่องมือทางการตลาดที่เน้นเฉพาะการส่งแคมเปญทางอีเมลหรือเครื่องมือสำหรับการเผยแพร่โพสต์ทางโซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์มการตลาดแบบรวมศูนย์มีแอปพลิเคชันหลายตัวซึ่งทำงานเกี่ยวกับกิจกรรมทางการตลาดได้หลายอย่างภายในที่เดียว โซลูชันส่วนใหญ่ประกอบด้วยเครื่องมือสำหรับอีเมล SMS โซเชียลมีเดีย การสัมมนาทางเว็บ แบบสำรวจ โฆษณา และระบบอัตโนมัติ พร้อมด้วยโซลูชันบางอย่างที่มีฟังก์ชันการทำงานมากยิ่งขึ้น
โซลูชันการตลาดแบบเฉพาะด้าน
แพลตฟอร์มการตลาดแบบรวมศูนย์
การใช้งานซับซ้อนเนื่องจากอินเทอร์เฟซผู้ใช้จะแตกต่างกันไปสำหรับผู้จำหน่ายแต่ละราย
มีอินเทอร์เฟซแบบรวม: ใช้งานง่ายเนื่องจากอินเทอร์เฟซผู้ใช้เหมือนกันสำหรับเครื่องมือทั้งหมด
คุณต้องตั้งค่าหลายบัญชีและข้อมูลประจำตัวในการเข้าสู่ระบบสำหรับแบรนด์ของคุณบนแอปพลิเคชันที่แตกต่างกัน ซึ่งจะทำให้ข้อมูลของคุณตกอยู่ในความเสี่ยง
การตั้งค่าแบบรวม: ทำให้กระบวนการลงทะเบียนและการเข้าถึงเครื่องมือเป็นเรื่องง่าย และบัญชีผู้ใช้ของคุณจะมีความปลอดภัยมากขึ้นเนื่องจากคุณไม่จำเป็นต้องแชร์ข้อมูลประจำตัวของคุณกับผู้จำหน่ายหลายราย
เป็นไปไม่ได้ที่จะจัดการแบรนด์ของคุณทั้งหมดได้จากที่เดียว จึงเป็นเรื่องยากที่จะรักษาคุณสมบัติที่เป็นหนึ่งเดียวสำหรับแบรนด์ของคุณในทุกช่องทาง
การจัดการแบรนด์แบบรวม: คุณสามารถจัดการแบรนด์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในพื้นที่ส่วนกลางได้ สร้างแคมเปญแบบรวมสำหรับแบรนด์ของคุณทั่วทุกช่องทางเพื่อรักษาความสอดคล้องของแบรนด์
การทำงานร่วมกันกับสมาชิกในทีมเป็นเรื่องที่ท้าทาย คุณต้องซื้อสิทธิ์การใช้งานสำหรับแต่ละบัญชี เชิญทีมของคุณมาใช้เครื่องมือแต่ละอย่าง และพูดคุยเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของแต่ละแคมเปญทีละรายการ
การจัดการทีมแบบรวม: การทำงานร่วมกับผู้อื่นเป็นเรื่องง่าย แพลตฟอร์มการตลาดแบบรวมศูนย์เป็นพื้นที่แบบครบวงจรที่สมาชิกในทีมทุกคนสามารถติดตามความคืบหน้าได้แบบเรียลไทม์และจัดการการพูดคุยทั้งหมดของพวกเขาได้ในที่เดียวกัน
เป็นไปไม่ได้ที่จะวัดผลการดำเนินงานทางการตลาดโดยรวมทั้งหมดโดยไม่ต้องตั้งค่าเครื่องมือเพิ่มเติมหรือทำการคำนวณด้วยตนเอง
การวิเคราะห์ทางการตลาดแบบรวมศูนย์: ทำให้คุณวัดแคมเปญแต่ละแคมเปญและประสิทธิภาพของแคมเปญโดยรวมได้แม่นยำยิ่งขึ้น ให้ภาพรวมที่ชัดเจนของ ROI การตลาดของคุณ
ฟังก์ชันการทำงานหลักของแพลตฟอร์มการตลาดแบบรวมศูนย์
- การจัดการรายชื่อติดต่อ
- อีเมล
- SMS
- โซเชียลมีเดีย
- แบบสำรวจ
- การสัมมนาทางเว็บ
- การวิเคราะห์
- ระบบอัตโนมัติทางการตลาด
- การจัดการแคมเปญแบบรวม
สำรวจแพลตฟอร์มการตลาดแบบรวมศูนย์ของ Zoho
Zoho Marketing Plus เป็นแพลตฟอร์มการตลาดแบบรวมศูนย์ที่รวมเครื่องมือการตลาดทั้งหมดของคุณเข้าไว้ด้วยกัน ได้แก่ อีเมล SMS โซเชียลมีเดีย แบบสำรวจ การสัมมนาทางเว็บ เหตุการณ์เสมือน และการวิเคราะห์ เครื่องมือทั้งหมดใน Marketing Plus จะเชื่อมต่อกันอย่างแน่นหนา คุณจึงสามารถจัดการข้อมูลลูกค้าทั้งหมดของคุณได้ในที่เดียวกันและส่งแคมเปญไปยังช่องทางต่างๆ ได้โดยไม่ต้องเสียเวลาสลับระหว่างเครื่องมือหรือนำเข้าข้อมูล
ทดลองใช้ ZOHO MARKETING PLUSเรียนรู้ต่อไป!
กุญแจสู่ความสำเร็จในการทำการตลาดดิจิทัลคือการติดตามแนวโน้มทางการตลาดล่าสุดและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดอยู่เสมอ Marketing Express เป็นสถานที่ที่ดีเยี่ยมในการค้นหาข้อมูล แนวคิด และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการทำการตลาดดิจิทัลสำหรับนักการตลาดทั่วโลก