วิธีการสร้างงบประมาณการตลาด

กำหนดเป้าหมายของคุณ

สิ่งแรกในการสร้างงบประมาณการตลาดคือการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและความคาดหวังของแบรนด์ เช่น หากคุณกำลังเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เป้าหมายหลักของคุณควรเป็นการสร้างการรับรู้ ซึ่งหมายถึงการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์บนเครื่องมือค้นหาที่มากขึ้น มีผู้โทรมาสอบถามเกี่ยวกับสินค้ามากขึ้น และมีผู้เข้าชม Landing Page มากขึ้น เป็นต้น

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดังกล่าว ให้คุณประเมินว่าแบรนด์ของคุณต้องการจะจ่ายเท่าไร

ตัวอย่างเช่น การให้โฆษณาบนเครื่องมือค้นหาแสดงผล 100,000 ครั้ง คุณอาจต้องใช้งบสองถึงสามร้อยดอลลาร์ ให้รวมไว้ในงบประมาณของคุณด้วย

เข้าใจตลาดและกลุ่มเป้าหมายของคุณ

การเข้าใจตลาดเป้าหมาย คู่แข่ง และพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างลึกซึ้งเป็นสิ่งสำคัญในการวางแผนงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ ทำการวิจัยตลาดอย่างละเอียดเพื่อระบุความพึงพอใจ พฤติกรรม และภาพรวมการแข่งขัน

ข้อมูลเชิงลึกนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าควรใช้ช่องทางการตลาดและกลยุทธ์ใดในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย หากแบรนด์คู่แข่งของคุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผ่านอีเวนต์ ก็ควรเน้นจัดกิจกรรมให้มากขึ้นเพื่อสร้างการเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมาย

หากผลิตภัณฑ์ของคุณจำเป็นต้องมีเนื้อหาเชิงให้ความรู้เพื่อส่งเสริมการขาย ก็ควรลงทุนกับทีมเขียนเนื้อหาและทำการตลาดในทิศทางนั้น วิธีนี้จะช่วยให้คุณวางแผนงบประมาณและเตรียมความพร้อมสำหรับค่าใช้จ่ายทางการตลาดทั้งหมดได้

กำหนดรายได้รวมและเงินทุนที่สามารถใช้ได้

ก่อนจะจัดสรรงบประมาณการตลาด คุณต้องประเมินทรัพยากรทางการเงินของคุณ คำนวณรายได้ที่คาดว่าจะได้รับในช่วงเวลาที่จะมาถึง และกำหนดว่าคุณสามารถจัดสรรงบสำหรับการตลาดได้เท่าไร โดยอาจเป็นเปอร์เซ็นต์คงที่จากรายได้หรือเป็นจำนวนเงินที่กำหนดไว้แน่นอน

จัดสรรงบประมาณให้กับช่องทางการตลาดต่างๆ

เมื่อคุณตั้งงบประมาณโดยรวมแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือจัดสรรงบให้กับช่องทางการตลาดต่างๆ พิจารณาว่าช่องทางใดเหมาะที่สุดในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและบรรลุเป้าหมายของคุณ ช่องทางเหล่านี้อาจรวมถึงช่องทางดิจิทัล เช่น โซเชียลมีเดีย, อีเมล, โฆษณาแบบจ่ายต่อคลิก (PPC), SEO รวมถึงช่องทางแบบดั้งเดิม เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ และวิทยุ

ประเมินต้นทุนในแต่ละช่องทาง

ศึกษาต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับแต่ละช่องทาง เช่น ค่าโฆษณา, ค่าบริการเอเจนซี, ค่าใช้จ่ายในการสร้างเนื้อหา และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อย่าลืมคำนึงถึงทั้งค่าใช้จ่ายแบบครั้งเดียวและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถประเมินความต้องการด้านงบประมาณได้อย่างแม่นยำ

จัดลำดับความสำคัญของช่องทางตาม ROI

ไม่ใช่ทุกช่องทางการตลาดที่จะให้ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) เท่ากัน ประเมิน ROI ที่คาดว่าจะได้จากแต่ละช่องทาง และจัดลำดับความสำคัญให้กับช่องทางที่มีแนวโน้มว่าจะให้ผลลัพธ์ดีที่สุด มุ่งเน้นการใช้งบประมาณกับช่องทางที่ให้ ROI สูงที่สุด ในขณะเดียวกันก็ควรรักษาความสมดุลระหว่างช่องทางต่างๆ เพื่อให้ได้ทั้งการเข้าถึงที่กว้างขวางและผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ

ปัจจัยเรื่องฤดูกาลและการทำแคมเปญ

อย่าลืมพิจารณาปัจจัยเรื่องฤดูกาลหรือจังหวะเวลาที่อาจส่งผลต่อความสำเร็จของการทำการตลาดของคุณ โปรโมชันหรือแคมเปญบางรายการอาจได้ผลดีที่สุดในช่วงเวลาที่เฉพาะเจาะจงของปี หรือในช่วงที่มีเหตุการณ์หรือวันหยุดสำคัญ ปรับงบประมาณและจังหวะเวลาของแคมเปญให้เหมาะสม เพื่อให้เกิดผลลัพธ์สูงสุด

เผื่อพื้นที่ไว้สำหรับการทดสอบและทดลอง

สำรองงบประมาณบางส่วนไว้สำหรับการทดสอบกลยุทธ์ใหม่ๆ และทดลองแนวทางที่หลากหลาย วิธีนี้ช่วยให้คุณสามารถปรับและเพิ่มประสิทธิภาพของการตลาดตามข้อมูลผลตอบรับและผลลัพธ์จริงที่เกิดขึ้น การทดสอบถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการค้นหาว่าอะไรที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย และปรับปรุงกลยุทธ์ให้ดียิ่งขึ้น

ติดตามและตรวจสอบค่าใช้จ่าย

ตลอดช่วงเวลาของงบประมาณ ควรติดตามและตรวจสอบค่าใช้จ่ายทางการตลาดอย่างใกล้ชิด จับตาดูตัวชี้วัดด้านประสิทธิภาพเพื่อประเมินความสำเร็จของกิจกรรมต่างๆ และค้นหาจุดที่ควรปรับปรุง การตรวจสอบงบประมาณและค่าใช้จ่ายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล และปรับกลยุทธ์ได้ตามความจำเป็น

ตรวจสอบและปรับงบอย่างสม่ำเสมอ

งบประมาณการตลาดไม่ใช่สิ่งที่ตั้งไว้แล้วจบ ควรมีการตรวจสอบและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ยังคงมีประสิทธิภาพ ประเมินงบประมาณของคุณเป็นประจำ โดยเปรียบเทียบกับเป้าหมาย ข้อมูลประสิทธิภาพ และสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลง เตรียมพร้อมที่จะจัดสรรทรัพยากรใหม่ และปรับทิศทางเชิงกลยุทธ์เพื่อให้แน่ใจว่างบประมาณของคุณยังคงสนับสนุนเป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างเหมาะสม กล่าวโดยสรุป การสร้างงบประมาณการตลาดที่ครอบคลุมคือกระบวนการเชิงกลยุทธ์ที่ต้องอาศัยการวางแผน การวิเคราะห์ และความยืดหยุ่นอย่างรอบคอบ ด้วยการปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้และการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง คุณจะสามารถเพิ่มผลกระทบจากกิจกรรมการตลาดและผลักดันความสำเร็จให้กับธุรกิจของคุณได้